ไอเดียมุมแสดงหนังสือที่ไม่เคยมีใครหยิบอ่านในห้องสมุด

วันนี้แค่หัวข้อก็อาจจะดูแปลกๆ ใช่มั้ยครับ เอ๊ะ หรือผมพิมพ์ผิดหรือปล่าว
ไม่ผิดหรอกครับ วันนี้ผมขอนำไอเดียมาขายให้ห้องสมุดของเพื่อนๆ สักหน่อย
เกี่ยวกับมุมแสดงหนังสือที่ไม่เคยมีใครหยิบอ่านในห้องสมุด หรือ 20 อันดับหนังสือที่ไม่เคยมีใครหยิบอ่าน

ปกติในห้องสมุดก็มักจะมีมุมที่ใช้ในการแสดงหนังสือยอดนิยมใช่มั้ยครับ แน่นอนครับ เกือบทุกแห่งมีมุมนี้แน่นอน
ซึ่งโดยหลักของเศรษฐศาสตร์แบบหางยาว (Longtails) แล้วหนังสือยอดนิยมมักจะถูกหยิบอ่านหรือยืมกลับบ้านมากในห้องสมุด
ส่วนหนังสืออื่นๆ ก็มีมากมายที่อาจจะไม่เคยถูกหยิบเลย หรือไม่มีใครยืมกลับบ้านเลยก็เป็นไปได้

สมมุติว่าในห้องสมุดมีหนังสือ 100 เล่ม หากเราแนะนำหนังสือยอดนิยมจำนวน 20 เล่ม แล้วปล่อยให้ 80 เล่มอยู่บนชั้นหนังสือโดยไม่ทำอะไรเลย
ผู้ใช้บริการก็มักจะสนใจหนังสือยอดนิยมจำนวน 20 เล่มนั้น แล้วก็ไม่ค่อยสนใจ 80 เล่มที่เหลือ
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า บางที 80 เล่มที่เหลืออาจจะมีข้อมูลดีๆ อยู่ก็ได้แต่เมื่อผู้ใช้ไม่สนใจหนังสือเล่มนั้นก็น่าเสียดายจริงๆ


เอาเป็นว่าวิธีที่ผมอยากแนะนำแบบประหลาดๆ ก็คือ น่าจะมีการจัดชั้นหนังสือที่ไม่มีใครเคยหยิบในห้องสมุดบ้าง
และอาจจะเน้นชั้นหนังสือนั้นให้เด่นขึ้นมาอีกสักหน่อย เผื่อว่าผู้ใช้จะเดินไปดูบ้าง
ผู้ใช้บริการคงสนใจน่าดูเลยนะครับว่า เอ๊ะ “หนังสือเล่มไหนที่ไม่มีใครเคยหยิบนะ
และเมื่อผู้ใช้บริการค้นพบหนังสือเหล่านั้นก็อาจจะหยิบมาเปิดดูและบางส่วนอาจจะเจอในสิ่งที่ตนเองสนใจก็ได้

เอาเป็นว่าหนังสือบางเล่มเนื้อหาน่าสนใจแต่ไม่มีใครเคยหยิบ มันน่าเสียดายมาก (เหมือนว่าผมเคยเขียนบล็อกไปแล้ว)
ลองอ่านตัวอย่างหนังสือที่น่าสนใจแต่ไม่มีใครหยิบอ่านดูได้ที่ “หนังสือดีๆ ยังมีอีกมากในห้องสมุดแต่ผู้ใช้หาไม่เจอ

เอาเป็นว่าเพื่อนๆ คิดยังไงกับไอเดียนี้ ลองแสดงความคิดเห็นมาได้ด้านล่างนี้นะครับ
ช่วยๆ กันเสนอไอเดีย ห้องสมุดของเราจะได้มีการใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ก่อนจากกันวันนี้ผมขอแนะนำข้อความของบรรณารักษ์คนนึง (@montserratlj) ที่ tweet วันนี้ คือ

?Every librarian’s dream — every book is checked out !!? (SierraGold’s caption…:-)): http://momentile.com/montserratlj/11-13-2010

ประโยคนี้ผมชอบมากและถ้าเป็นไปได้ก็อยากเห็นในสังคมไทยจริงๆ (ยืมไปอ่านนะครับ ไม่ใช่ทำลายหนังสือในห้องสมุดหมด)

มาตรฐานห้องสมุดสามดี (How to 3Dee Library)

วันนี้ในระหว่างที่ค้นหาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตก็บังเอิญไปเจอหนังสือคู่มือเล่มนึงน่าสนใจมาก
เป็นคู่มือ “กรอบแนวทางการดำเนินงานห้องสมุด 3 ดี” จึงขอเอามาแชร์ให้เพื่อนได้อ่านกัน

รายละเอียดทั่วไปของหนังสือเล่มนี้
ชื่อเรื่อง : กรอบแนวทางการดำเนินงานห้องสมุด 3 ดี
จัดทำโดย : สำนักงาน กศน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ISBN : 9789742323502

หนังสือเล่มนี้แจกฟรีนะครับ ไม่มีขายตามท้องตลาดหรอกครับ
ถ้าใครอยากได้ให้ไปดาวน์โหลดได้ที่ http://dnfe5.nfe.go.th/download/3Dbook.pdf

เนื้อหาในคู่มือเล่มนี้แบ่งออกเป็นหลายส่วน เช่น
– ความสำคัญและความเป็นมา
– เป้าประสงค์ตามนโยบาย “ห้องสมุด 3 ดี”
– วิสัยทัศน์
– พันธกิจ
– แนวทางการดำเนินงาน
– มาตรฐาน “ห้องสมุด 3 ดี”
– การขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ

เอาเป็นว่าผมขอยกมาสักส่วนนึงให้อ่านนะครับ
เรื่องที่ผมจะยกมานี้ คือ มาตรฐาน “ห้องสมุด 3 ดี”
ซึ่งมีเพื่อนๆ หลายคนถามผมมาบ่อยมากๆ จึงขอเอาเรื่องนี้มาเล่านะครับ

ห้องสมุด 3 ดี มีอะไรบ้าง (หนังสือดี บรรยากาศดี บรรณารักษ์ดี)
แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีคำจำกัดความว่าอย่างไรกันบ้าง อะไรคือมาตรฐาน ???

หนังสือดี —> หนังสือ หรือ สื่อการเรียนรู้ที่งในรูปของสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อมัลติมีเดีย หรือสื่ออื่นๆ ต้องมีเนื้อหาที่ดี มีคุณภาพ ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม

บรรยากาศดี —> บรรยากาศที่เอื้อต่อการอ่านหนังสือ บริการในห้องสมุดอย่างเป็นกันเอง สะดวก สบาย ที่สำคัญต้องประหยัดพลังงาน และสะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชน

บรรณารักษ์ดี —> บรรณารักษ์มีความรู้ และมีความเป็นมืออาชีพในการปฏิบัติงาน

มาตรฐานของห้องสมุด 3 ดี
1. หนังสือดี มาตรฐานอยู่ที่

1.1 หนังสือหรือสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– เนื้อหามีสาระ ส่งเสริมจินตนาการ คุณธรรม จริยธรรม
– ความถูกต้องของข้อมูล เชื่อถือได้ มีการอ้างอิงถูกต้อง
– มีภาพและลายเส้นประกอบให้สอดคล้องกับเนื้อหา
– ใช้คำที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย
– มีรายการบรรณานุกรมที่หอสมุดแห่งชาติออกให้ (CIP)

1.2 การจัดหาหนังสือหรือสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– มีนโยบายการจัดหา
– มีคณะกรรมการคัดเลือก
– มีคณะกรรมการจัดซื้อ
– มีการจัดทำประกาศรายชื่อหนังสือที่จะซื้อ
– มีมุมแนะนำหนังสือดี
– มีการหมุนเวียนหนังสือเรื่อยๆ
– มีการจัดทำฐานข้อมูลหนังสือ
– มีการสนับสนุนสื่ออิเล็กทรอนิกส์

2. บรรยากาศดี มาตรฐานอยู่ที่

2.1 บรรยากาศภายในห้องสมุดดี ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– บรรยากาศทั่วไปดี เช่น สะอาด โล่ง โปร่ง สบาย แสงสว่างเพียงพอ ต้นไม้ร่มรื่น
– การจัดพื้นที่ทำให้น่าสนใจ เช่น มีมุมหนังสือที่หลากหลาย ไม่มีมุมอับ เฟอร์นิเจอร์สบาย ป้ายบอกทางชัดเจน
– การจัดส่วนส่วนการวางหนังสือ เช่น จัดวางหนังสืออย่างเหมาะสม เข้าถึงง่าย ใช้สะดวก

2.2 บรรยากาศภายนอกห้องสมุดดี ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– สถานที่เป็นเอกเทศ
– ชุมชนเข้าถึงสะดวก
– มีสิ่งอำนวยความสะดวก
– อาคารน่าสนใจดึงดูดผู้ใช้บริการ เช่น ใช้สี
– พื้นที่ไม่คับแคบ จัดสัดส่วนให้เหมาะต่อการใช้บริการ
– ไม่มี dead zone พื้นที่ปรับได้ตามการใช้งาน

3. บรรณารักษ์ดี มาตรฐานอยู่ที่

3.1 บรรณารักษ์มีคุณภาพ ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการห้องสมุด
– มีทักษะในการปฏิบัติงานในห้องสมุดดี เช่น ด้านไอที ด้านการบริการ ด้านการจัดกิจกรรม

3.2 บรรณารักษ์มีความเป็นมืออาชีพ ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– มีกระบวนการและขั้นตอนในการทำงานในห้องสมุด
– เป็นนักจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง
– บริหารจัดการความรู้ในรูปแบบใหม่
– เป็นนักคิด นักพัฒนา และนักวางแผนในการใช้ไอทีเพื่อการปฏิบัติงาน
– เป็นผู้ประสานเครือข่าย
– เป็นผู้นำด้านบริการใหม่ๆ
– มีความภูมิใจในอาชีพ

3.3 บรรณารักษ์มีจิตบริการ ต้องอาศัยสิ่งบ่งชี้ดังนี้
– มีทัศนคติเชิงบวก
– ติดตามและปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ตลอด
– มีความคิดสร้างสรรค์
– บุคลิกภาพดี และมีความสุขในการทำงาน

เป็นยังไงกันบ้างครับ ที่อ่านมาผมรู้สึกว่าประเด็นเรื่อง “บรรณารักษ์ดี” จะมีเนื้อหาเยอะกว่าอย่างอื่น
โดยเฉพาะในเรื่อง มาตรฐานของการเป็น “บรรณารักษ์มืออาชีพ” ยิ่งมีรายละเอียดเยอะ
และข้อที่ถูกใจผมมากๆ คือ “บรรณารักษ์มืออาชีพ” ต้องมีความภูมิใจในอาชีพ

เอาเป็นว่าวันนี้ก็ขอฝากแง่คิดไว้เท่านี้ก่อนนะครับ
สำหรับใครที่อยากอ่านต่อก็ดาวน์โหลดเล่มนี้มาอ่านได้ครับ
http://dnfe5.nfe.go.th/download/3Dbook.pdf

ปล. เนื้อหาที่ผมเขียนด้านบนนี้ผมอ่านแล้วสรุปใจความมานะครับ ไม่ได้ copy มาทั้งดุ้น
ดังนั้นใครก็ตามที่นำบทความนี้ไปอ้างก็กรุณาอ่าน สรุป และแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ

Flickr Fight ยกที่หนึ่ง : เมื่อห้องสมุดเจอกับ search engine

เว็บไซต์ Flickr Fight คือ เว็บไซต์ที่ใช้ Flickr Api ร่วมกับการค้นหาของ Google
ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะใช้ในการเปรียบเทียบจำนวนของรูปภาพ ของคำที่เราต้องการสืบค้นจำนวน 2 คำ

หลักการง่ายๆ ครับ นำคำที่เราต้องการเปรียบเทียบทั้งสองคำใส่ลงไปในช่องช่าง
ซึ่งในยกแรกวันนี้ผมขอใช้ 2 คำ คือ Library กับ Search engine ดูซิว่าใครจะชนะ

เอาเป็นว่าไปดูผลกันเลยดีกว่า

วันนี้ก็เป็นวันของชาวห้องสมุดครับ เมื่อ Library ชนะ Search Engine
ผลออกมาน่าพอใจมากครับเมื่อ Library มี result = 2388533 images!
ส่วนผลของ Search engine มี result = 35036 images!

เห็นหรือยังครับ ว่าห้องสมุดต้องยิ่งใหญ่กว่า Search Engine แน่นอนครับ 5555

เพื่อนๆ ลองเอาไปเล่นดูกันนะครับ ที่ http://flickrfight.net

ปล. อย่าสนใจโฆษณาด้านบนของเว็บไซต์นะ มันไม่เหมาะสม อิอิ

สุขสันต์วันเกิด LISNews.org ปีที่ 11

ไม่ได้เข้าไปอ่านข่าวห้องสมุดและบรรณารักษ์หลายวัน วันนี้ได้ฤกษ์เข้า Lisnews.org
ก็เจอสิ่งแปลกๆ นิดหน่อยนั่น คือ “LISNews : This Site Goes To 11

เว็บไซต์ที่รวบรวมข่าวสารของวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แถมด้วยบล็อกที่มีบรรณารักษ์ร่วมกันเขียนเยอะที่สุดในโลก
อย่าง LISNews ครบรอบ 11 ปีแล้ว

ผมอาจจะมาอวยพรช้ากว่าชาวบ้านนิดนึง แต่ก็อยากอวยพรให้
LISNews จงอยู่คู่กับวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ของโลกไปนานนาน

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่รู้จัก LISNews.com ผมก็ขอแนะนำอย่างยิ่งครับ
เพราะเขามีเรื่องใหม่ๆ ในวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์มาให้อ่านทุกวัน
แถมเรื่องที่ลงในเว็บนี้มาจากการร่วมกันเขียนของเหล่าบรรณารักษ์จากทั่วโลกด้วย

สำหรับคนที่เข้ามาที่เว็บนี้อยู่แล้ว ก็เข้ามาอ่านได้เรื่อยๆ นะครับ
ผมชอบที่เว็บนี้มี podcast ให้ฟังด้วย ลองเข้าไปดูได้ที่ http://lisnews.org/topic/lisnews_podcast

สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ

เว็บไซต์ Lisnews.org = http://lisnews.org/

บรรณารักษ์ระดับ 3, 4, 5, 6, 7 แตกต่างกันตรงไหน

เพื่อนๆ นอกวิชาชีพหลายๆ คนสงสัยและถามผมมาว่า บรรณารักษ์ 3 ที่สอบในราชการนี่คืออะไร
แล้วมันยังมีตำแหน่งบรรณารักษ์ระดับอื่นๆ อีกหรือไม่ วันนี้ผมจึงขอเขียนเรื่องตำแหน่งบรรณารักษ์ในระดับต่างๆ

สายงานบรรณารักษ์ในวงการราชการก็มีระดับของตำแหน่งเหมือนวิชาชีพอื่นๆ แหละครับ
นอกจากบรรณารักษ์ 3 แล้ว ในวงการราชการอาจจะพบคำว่า บรรณารักษ์ 4,5,6,7 อีก
ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามานี้มาจากการสอบซึ่งดูที่ความสามารถและประสบการณ์ทำงานเช่นกัน

เรามาดูความรู้ความสามารถของบรรณารักษ์ระดับต่างๆ กันดีกว่า

บรรณารักษ์ระดับ 3
1. มีความรู้ในวิชาการบรรณารักษ์ศาสตร์อย่างเหมาะสมแก่การปฏิบัติงานในหน้าที่
2. มีความรู้ความเข้าในในกฎหมายสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล และกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับอื่นที่ใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่
3. มีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะ อย่างยิ่งของประเทศไทย
4. มีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอย่างเหมาะสมแก่การปฏิบัติงานในหน้าที่
5. มีความสามารถในการศึกษาหาข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา และสรุปเหตุผล


บรรณารักษ์ระดับ 4 (ทำงานระดับ 3 แล้ว 2 ปี)

1. มีความรู้ความเข้าใจในนโยบายและแผนงานต่าง ๆ ของส่วนราชการที่สังกัด
2. มีความสามารถในการจัดทำแผนงาน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คำปรึกษาแนะนำและ เสนอแนะวิธีการแก้ไขปรับปรุงการปฏิบัติงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ
3. มีความสามารถในการปกครองบังคับบัญชา
4. มีความสามารถในการติดต่อประสานงาน

บรรณารักษ์ระดับ 5 (ทำงานระดับ 4 แล้ว 2 ปี, ทำงานระดับ 3 แล้ว 4 ปี, ปริญญาเอกบรรณารักษ์)
1. มีความรู้ความเข้าใจในหลักการบริหารงานบุคคล
2. มีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
3. มีความรู้ความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์


บรรณารักษ์ระดับ 6 (ทำงานระดับ 5 แล้ว 2 ปี)

1. มีความสามารถในการบริหารงานและจัดระบบงาน
2. มีความสามารถในการริเริ่ม ปรับปรุงนโยบายและแผนงาน
3. มีความรู้ความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์


บรรณารักษ์ระดับ 7 (ทำงานระดับ 6 แล้ว 2 ปี)

1. มีความสามารถในการบริหารงานและจัดระบบงาน
2. มีความสามารถในการริเริ่ม ปรับปรุงนโยบายและแผนงาน
3. มีความรู้ความสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอร์

จะสังเกตได้ว่า ในบรรณารักษ์ระดับที่ 6 กับ 7 จะคล้ายๆ กัน แต่การที่จะวัดระดับชั้นกันนั้นอยู่ที่ประสบการณ์ทำงานต่างหาก
และถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าทุกๆ 2 ปี จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้นก็ทำงานเก็บประสบการณ์กันไปเรื่อยๆ นะครับ

อ๋อเรื่องตำแหน่งที่สูงขึ้น แน่นอนครับเงินก็ต้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ผมคงไม่ทราบหรอกนะครับว่าตำแหน่งไหนได้เงินเท่าไหร่
ใครรู้ก็ช่วยนำมาแชร์ให้ผมรู้บ้างนะครับ จะขอบคุณมากๆ อิอิ วันนี้ก็อ่านเล่นๆ กันดูนะครับ อย่างน้อยก็เพื่อพัฒนาตัวเอง

ห้องสมุดควรจัดเก็บสถิติอะไรบ้าง (มาวัดผลห้องสมุดกันเถอะ)

เพื่อนๆ หลายคนส่งเมล์มาถามผมว่า “เปิดห้องสมุดมาได้สักพักแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเก็บข้อมูลห้องสมุดอย่างไร
วันนี้ผมจึงขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเลขต่าง ๆที่อยู่ในห้องสมุด เพื่อให้เพื่อนๆ ใช้เป็นแนวทางในการเก็บข้อมูล

ตัวเลขต่างๆ ที่จัดเก็บในห้องสมุด หรือข้อมูลสถิติต่างๆ ที่เก็บในห้องสมุดเป็นตัวเลขที่แสดงให้เราเห็นว่าห้องสมุดมีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้มีประโยชน์ในแง่ของการเขียนรายงานประจำเดือน ประจำปี เพื่อให้เราเป็นความต้องการของผู้ใช้บริการในห้องสมุด รวมถึงนำเสนอผู้บริหารให้ทราบถึงการดำเนินการต่างๆ ของห้องสมุด

ตัวเลขอะไรบ้างหล่ะที่น่าสนใจต่อการเก็บข้อมูล

– จำนวนสื่อสารสนเทศในห้องสมุด เช่น หนังสือ สื่อมัลติมีเดีย วารสาร ….
– จำนวนผู้เข้าใช้บริการในห้องสมุดในแต่ละวัน (แบบบุคคลและกลุ่มบุคคล)
– จำนวนผู้ที่มาสมัครสมาชิกกับห้องสมุด
– จำนวนการยืมคืนในแต่ละวัน
– จำนวนครั้งในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่าน
– จำนวนครั้งที่มีการแสดงนิทรรศการ หรือ จัดบอร์ด
– จำนวนครั้งในการให้บริการตอบคำถาม
– จำนวนครั้งในการใช้บริการอุปกรณ์ต่างๆ ที่ห้องสมุดจัดเตรียม เช่น คอมพิวเตอร์ สื่อการเรียนการสอน
– จำนวนสื่อสารสนเทศที่มีการแยกหมวดหมู่
– จำนวนสื่อสารสนเทศที่สูญหาย
– จำนวนสื่อสารสนเทศที่ได้รับการอภินันทนาการ
– จำนวนวารสารเย็บเล่ม
– จำนวนอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยงานห้องสมุด
– จำนวนในการสร้างความร่วมมือระหว่างห้องสมุดกับหน่วยงานภายนอก
– ปริมาณค่าใช้จ่ายและรายรับต่างๆ ของห้องสมุด

เอาเป็นว่านี่ก็คือตัวอย่างการจัดเก็บจำนวนตัวเลขต่างๆ แบบคร่าวๆ นะครับ
และตัวเลขเหล่านี้ผมว่าไม่ยากเกินไปถ้าเพื่อนๆ จะนำไปจัดเก็บบ้าง
จริงๆ แล้วขอเสนอว่าถ้ามีแบบฟอร์มในการบันทึกรายการต่างๆ ก็จะดีมากด้วยครับ

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากการจัดเก็บข้อมูลสถิติ
– เข้าใจและรู้จักความต้องการของผู้ใช้บริการ เช่น หนังสือหมวดไหนที่คนชอบอ่าน
– จัดสรรงบประมาณเพื่อเสริมความต้องการให้ผู้ใช้บริการ
– ขอเสนองบประมาณในการพัฒนาห้องสมุด

ซึ่งเอาเป็นว่าเมื่อเข้าใจถึงตัวเลขต่างๆ เหล่านี้แล้ว ผมก็อยากให้ทุกคนทำความรู้จักและรู้จักการนำตัวเลขเหล่านี้มาใช้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ว่าเอาตัวเลขมาดูเพียงเพราะว่ามันเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้นนะครับ

ปล. เดี๋ยววันละหลังจะมาเขียนเรื่องการประยุกต์ในการเก็บสถิติเพื่อสร้างความน่าสนใจในห้องสมุดนะครับ

วารสารห้องสมุด IFLA Journal ฉบับเดือนตุลาคม 2010

วารสาร IFLA Journal ประจำเดือนตุลาคม 2010 ออกแล้วครับ
เลยต้องนำมาลงให้เพื่อนๆ เข้าไปอ่านกัน (ดาวน์โหลดได้ฟรีๆ เลยครับ)

โดยปกติ วารสาร IFLA Journal จะออกทุกๆ 3 เดือนนะครับ
ซึ่งจะออกมาในรูปแบบ pdf ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีและสั่งพิมพ์ออกมาอ่านได้ครับ

วารสาร IFLA Journal ฉบับนี้มีเรื่องน่าสนใจอะไรบ้างไปดูกันก่อนเลยครับ
– Bringing the benefits of information technology to underserved populations: An introduction to ICTD for the library community
– Symbiotic partnerships: The global library community and the ICTD stakeholders
– Main factors affecting the preservation of Chinese paper documents: A review and recommendations
– Arab online book clubs: A survey
– System migration from Horizon to Symphony at King Fahd University of Petroleum and Minerals

เป็นไงกันบ้างครับน่าสนใจมากๆ เลยใช่มั้ยครับ
งั้นไปดาวน์โหลดกันเลยครับที่ “IFLA Journal Volume 36 Number 3 October 2010

สำหรับเล่มเก่าๆ ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ http://www.ifla.org/en/ifla-publications นะครับ

นายห้องสมุดกับการแนะนำหนังสือน่าอ่านแบบง่ายๆ (How to…)

วันนี้ใครที่เขามาที่ Libraryhub แล้วเห็นกรอบด้านล่างขวาเพิ่มก็ขอว่าอย่าตกใจนะครับ
เพราะนั้นคือกล่องสำหรับแนะนำหนังสือที่น่าสนใจ หรือ กล่อง Bookrc ของผมนั้นเอง

แล้ว Bookrc มาจากไหน –> คำตอบคือมันมาจาก Book Recommend นั่นเอง
ผมตั้งใจว่าเวลาไปร้านหนังสือแล้วเจอหนังสือดีๆ ผมก็อยากจะนำเสนอให้เพื่อนๆ รู้จักเช่นกัน

แล้วข้อมูลในกล่อง Bookrc มาจากไหน???
คำตอบ คือ ผมคิด Tag #bookrc เวลาที่ผมอยากจะแนะนำหนังสือสักเล่มให้เพื่อนๆ
เช่น “รวม 7 สุดยอดวิชาหาเงินผ่านเน็ตพร้อมเคล็ดลับทำเงินที่ได้ผลจริง “ผม รวยออนไลน์ได้ยังไง” 195 บาท #bookrc http://twitpic.com/30g1rj

หลักการง่ายๆ ครับ
1. พิมพ์ข้อความแนะนำแบบสั้นๆ
2. พิมพ์ชื่อหนังสือ
3. พิมพ์ราคา (แล้วแต่นะครับ)
4. ถ่ายรูปหนังสือ (อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ)
5. อันนี้ห้ามลืมครับ
#bookrc

หนังสือที่ผมแนะนำจริงๆ แล้วมันคละกันไปใน Timeline ของผมแหละ
แต่ผมเน้นแนะนำหนังสือบางกลุ่มเท่านั้นนะครับ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจ กลุ่มคอมพิวเตอร์ กลุ่ม textbook

ทำไมต้องแนะนำหนังสือเฉพาะกลุ่ม

– กลุ่มท่องเที่ยว เป็นหนังสือที่หลายๆ คนให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องแนะนำการท่องเที่ยว ที่กิน ที่พัก และกิจกรรมในการท่องเที่ยว ซึ่งในกลุ่มนี้ผมยังแถมเรื่องของวัฒนธรรมพื้นเมืองด้วย เช่น วัฒนธรรมของสิงคโปร์ วัฒนธรรมท้องถิ่นสุโขทัย ฯลฯ

– กลุ่มธุรกิจ เป็นหนังสือที่น่าสนใจอีกกลุ่มหนึ่งเช่นกัน โดยเฉพาะอาชีพแนวใหม่ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ หรือธุรกิจออนไลน์ที่กำลังเป็นกระแสในสังคม ซึ่งผมแนะนำหนังสือในกลุ่มเหล่านี้เพื่อให้ผู้ที่อยากทำธุรกิจใช้เป็นแนวทางในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

– กลุ่มคอมพิวเตอร์ อันนี้เป็นความสนใจส่วนตัวจึงต้องแนะนำว่าผมชอบอ่านแนวไหน คอมพิวเตอร์ระดับไหนที่ผมต้องการอ่าน ซึ่งโดยรวมแล้วผมไม่อ่านคอมพิวเตอร์ขั้นสูงมาก เช่น การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ หรือ การออกแบบผลิตภัณฑ์หรอกนะครับ

– กลุ่ม text book หลายๆ คนคิดว่า text book ราคาแพงมาก ซึ่งผมอยากจะบอกว่าหนังสือ text book หลายๆ เล่มที่ผมแนะนำนี้ไม่ได้แพงเกินไปเลย ราคาผมจะพยายามไม่ให้เกิน 1000 บาท ผมคิดว่าการอ่านหนังสือ text book จะช่วยฝึกให้เราเก่งด้านภาษาด้วย

รูปหนังสือที่ผมแนะนำสามารถดูได้จาก http://twitpic.com/search#q=#bookrc&type=recent&page=1

เอาเป็นว่าใครที่กำลังหาหนังสืออ่าน ก็สามารถแวะเข้ามาดู กล่อง Bookrc ของผมได้นะครับ
ส่วนใครที่สนใจอยากจะร่วมแนะนำหนังสือ ก็อย่าลืมใส่ tag #bookrc (ใน twitter only) นะครับ
สำหรับวันนี้ผมคงแนะนำเท่านี้ก่อนนะครับ แล้ววันหลังผมจะหาวิธีแนะนำหนังสือแบบแปลกมาให้เพื่อนอีกนะครับ

นายห้องสมุดพาเดินงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ 2553 (งานสัปดาห์หนังสือ)

วันนี้ผมแวะไปงานมหกรรมหนังสือระดับชาติมา เลยไม่ลืมแวะมาเล่าเรื่องราวให้เพื่อนๆ อ่าน
นอกจากนี้ผมยังถ่ายรูปบรรยากาศในงานมาพอสมควรเลยเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ดูเช่นกันครับ

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ หรือ ที่หลายๆ คนก็ยังเรียติดปากว่า “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ”
(จริงๆ แล้วงานที่จัดตอนต้นปีต่างหากครับที่เรียกว่างาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ”)
แต่เอาเหอะครับยังไงก็ คือ “งานหนังสือ” เหมือนๆ กันนั่นแหละครับ

ปีนี้จัดดีเหมือนกับทุกๆ ปีแหละครับ บรรยากาศโดยรวมเกือบทุกบูทเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
เดินไปทางไหนก็มีแต่ฝูงชนที่สนใจในเรื่องของการอ่าน (หนอนหนังสือ) เต็มไปหมด

กิจกรรมในงานโดยภาพรวมนอกจากการจำหน่ายหนังสือแล้ว
ยังมีส่วนที่แสดงนิทรรศการหนังสือน่าอ่าน และกิจกรรมสัมมนาต่างๆ มากมาย

สิ่งที่วันนี้ผมประทับใจในงานสัปดาห์หนังสือ

– ตุ๊กตามาสค็อตในงานนี้มีมากมายเลย ดึงดูดให้เด็กๆ อยากอ่านหนังสือ
– ยังคงมีบริการส่งหนังสือถึงบ้านโดยไปรษณีย์ไทย
– ป้ายเตือนเรื่อง ระวังกระเป๋า หรือ ระวังทรัพย์สิน มีจำนวนมากขึ้น เพื่อเตือนผู้เข้าร่วมงาน
– ร้านหนังสือกระหน่ำลดราคากันเพียบเลย
– กิจกรรมแนะนำหนังสือขายดี 10 อันดับของแต่ละร้าน
– ผู้ปกครองพาบุตรหลานมางานหนังสือเพียบเลย ดีจังเด็กๆ จะได้ฝึกการอ่านตั้งแต่เด็ก
– ผู้เข้าร่วมงานมหกรรมหนังสือมีจำนวนมากเหมือนทุกๆ ปี
– กิจกรรมในห้องสัมมนาต่างๆ ได้รับความนิยมและมีผู้เข้าร่วมเหมือนเยอะขึ้น
– หนังสือออกใหม่มีจำนวนมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นนวนิยายเสียมาก แต่หนังสือแปลก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
– พื้นที่แสดงหนังสือที่น่าสนใจของส่วนกลางเป็นระเบียบเรียบร้อย
– ให้พิมพ์หนังสือส่วนตัวฟรีไม่เกิน 200 หน้า
– รับบริจาคหนังสือเพื่อห้องสมุดที่ขาดแคลนหนังสือ รวมถึงห้องสมุดที่โดนน้ำท่วม
– ระบบการสืบค้นหนังสือดีขึ้นเยอะเลย ค้นแล้วเจอบอกว่าอยู่บูทไหนด้วย

เอาเป็นว่าวันนี้ขอสรุปแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ แล้วเดี๋ยวภายในอาทิตย์นี้ผมคงได้ไปอีกรอบ
แล้วจะเอามาเล่าเพิ่มเติมนะครับ ยังไงก็อย่าลืมติดตามดูกันได้ที่นี่นะครับ
วันนี้นายห้องสมุดต้องขอตัวก่อน

ชมภาพบรรยากาศในงานได้เลยครับ

[nggallery id=29]

ซูเปอร์บรรณารักษ์ (Super librarian) มาปฏิบัติภาระกิจแล้ว

วันนี้วันเสาร์วันชิวๆ ไม่อยากเอาเรื่องหนักๆ มาเขียน เลยขอนำคลิปวีดีโอมาให้ดูแทนก็แล้วกัน
คลิปวีดีโอวันนี้เป็นคลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่าวันๆ นึงบรรณารักษืมีงานเยอะแค่ไหน
แต่บรรณารักษ์ไม่เคยย่อท้อแถมต้องทำงานแบบกระฉับกระเฉง
เหมือนเป็น ซูเปอร์บรรณารักษ์

คลิปนี้เป็นคลิปที่จัดทำขึ้นเพื่อโปรโมทห้องสมุดแห่งหนึ่ง
ผมชอบในแนวความคิดที่นำเสนอ คือ การนำภาระงานของบรรณารักษ์มาแสดง
เนื่องจากทุกวันนี้หลายคนยังคงเข้าใจผิดนึกว่าบรรณารักษ์มีงานแค่นั่งเฝ้าหนังสือ
แต่จริงๆ แล้วงานบรรณารักษ์เยอะกว่านี้อีก เช่น
– เปิดไฟ เปิดคอม
– catalog หนังสือ
– จัดชั้นหนังสือ
– ช่วยผู้ใช้บริการค้นหาหนังสือ

…..ยังมีอีกมากมาย

ไปดูวีดีโอนี้กันเลยดีกว่า

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=Bu-TijjVs_g[/youtube]

บรรณารักษ์ต้องทำงานอย่างมีความสุข ถ้าบรรณารักษ์หลายๆ คนคิดแบบนี้แล้ว
ผมเชื่อว่าบรรณารักษ์ที่อยู่ในคลิปวีดีโอนี้ เพื่อนๆ ก็สามารถเป็น ซุเปอร์บรรณารักษ์ได้ทุกคน

ปล.ที่มาของคลิปวีดีโอนี้คือ http://www.youtube.com/watch?v=Bu-TijjVs_g