บรรณารักษ์ผู้ชายไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์นะ

เรื่องนี้เขียนแล้ว เขียนอีก และเขียนหลายครั้งแล้วด้วย ไม่เข้าใจว่าทำไมยังคงได้ยินอยู่เรื่อยๆ
ประเด็นมันคือเรื่อง ?ปัญหาการมองบรรณารักษ์เพศชายว่าต้องเป็นเกย์หรือกระเทยเท่านั้น?

เรื่องนี้ผมเขียนไปปีที่แล้วนะครับ แต่วันนี้ก็ยังคงมีคน MSN มาถามผมอีกว่า “เป็นผู้ชายแท้หรือปล่าว
เอิ่ม การเป็นผู้ชายแล้วชอบเรื่องห้องสมุดหรือบรรณารักษ์จำเป็นต้องไม่ใช่ชายแท้ด้วยหรอครับ

ไม่รู้ว่าจะต้องให้ผมพูดย้ำกันอีกสักกี่ครั้งว่า…
ทุกๆ อาชีพในปัจจุบันเขาก็เท่าเทียมกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม
ดูอย่างทหาร หรือตำรวจสิ ยังมีผู้หญิงเป็นเลย แล้วคนเหล่านั้นก็ไม่ได้เป็นทอมด้วยซ้ำ
แต่พอผู้ชายทำอาชีพบรรณารักษ์ทำไมต้องมองว่าเป็นชายไม่แท้ เป็นเกย์ หรือเป็นกระเทยด้วยหรอ
เฮ้อออออ!!!! อยากจะจับไอ้พวกเข้าใจผิดเรื่องแบบนี้ มานั่งฟังอบรมจิงๆ มันน่านัก?

บทความที่ผมเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องบรรณารักษ์กับผู้ชาย เขาคงไม่เคยอ่านมั้งครับ
งั้นแนะนำให้ไปอ่านเรื่อง “ผู้ชายก็เป็นบรรณารักษ์ได้นะ?”

แล้วก็ขออธิบายอีกสักเรื่องด้วยว่า การที่คนเหล่านั้นมีอยากเป็นเพศอื่น
เช่น เป็นเกย์ กระเทย ทอม ดี้ ตุ๊ด แต๋ว หรือจะเรียกอะไรก็เรียก
พวกเขาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรหรอก เขาก็เป็นคนเหมือนกัน

ทุกคนก็ มีมือ มีเท้า มีจิตใจ มีสมองทำงานได้ก็เหมือนทุกคนนั่นแหละ
ดังนั้นอย่าพยายามไปกีดกั้นสิทธิเสรีภาพของพวกเขาเลยครับ
บางทีเราต้องให้เขาพิสูจน์ในความสามารถในการทำงานน่าจะดีกว่า

เอาเป็นว่าเรื่องมันไม่เป็นเรื่องเลยนะครับ….

ปล. เรื่องบรรณารักษ์กับเพศชายผมเคยเขียนไปแล้ว ลองอ่านได้ที่ “ผู้ชายก็เป็นบรรณารักษ์ได้นะ?” ดูนะครับ
แล้วจะรู้ว่าไม่ว่าจะเพศอะไรก็สามารถทำงานบรรณารักษ์หรือห้องสมุดได้แหละ

ข้อสอบบรรณารักษ์ : จงกล่าวถึงผลงานทางด้านห้องสมุดของบุคคลต่อไปนี้

อยากเอาแนวข้อสอบบรรณารักษ์มาเขียนถึงหลายรอบแล้ว
วันนี้ขอเอาแนวข้อสอบบรรณารักษ์ ภาค ก อัตนัยมาให้เพื่อนๆ ดูสักข้อนึง พร้อมเฉลย (ผมเฉลยเอง)

ข้อสอบ : จงกล่าวถึงผลงานทางด้านห้องสมุดของบุคคลต่อไปนี้
– สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
– ดร.ฟรานซีส แลนเดอร์ สเปน
– เมลวิล ดิวอี้

คำตอบ (ผมช่วยหามาให้อ่านนะ)
– สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ – ในปี พ.ศ. ๒๔๖๘? พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงก่อตั้งราชบัณฑิตยสถานขึ้น โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพดำรงตำแหน่งนายกราชบัณฑิตยสถานพระองค์แรก ราชบัณพิตยสถานมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานหอสมุด พระนคร และพิพิธภัณฑสถาน (ข้อมูลจาก http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=492)

– ดร.ฟรานซีส แลนเดอร์ สเปน? (Frances Lander Spain) – เขียนหลักสูตรบรรณารักษศาสตร์ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทสไทยในปี 1954 ในปี 1960 ได้รับตำแหน่งประธาน ALA (อ่านต่อที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Frances_Lander_Spain)

– เมลวิล ดิวอี้ (Melvil Dewey)บรรณารักษ์ชาวอเมริกันเป็นผู้คิดระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมขึ้น ดิวอี้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในวงการห้องสมุดและบรรรณารักษศาสตร์ เพราะนอกจากจะเป็นผู้คิดระบบการจัดหมู่แบบระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification) แล้ว ยังเป็นผู้หนึ่งที่ริเริ่ม ก่อตั้งสมาคมห้องสมุดอเมริกันซึ่งเป็นสมาคมอาชีพบรรณารักษ์แห่งแรกในโลก (ข้อมูลจาก http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A5_%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%89/)
(อ่านต่อที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Melvil_Dewey)

ข้อสอบบรรณารักษ์ใน ภาค ก มีหลายข้อที่ดูแล้วผมก็อึ้งเหมือนกัน แต่ผมจะไม่วิจารณ์นะครับ
เอาเป็นว่าไว้วันหลังผมจะนำข้ออื่นๆ มาเฉลยเรื่อยๆ เลยนะครับ อิอิ
เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากสอบ ภาค ก ด้านบรรณารักษ์

หนังสือที่ใช้ตัวอักษร A-Z เป็นชื่อเรื่อง (ชื่อสั้นจริงๆ)

ปัจจุบันเว็บไซต์แนะนำหนังสือมีเยอะมากๆ ดังนั้นเว็บไซต์เหล่านี้จะต้องหาสิ่งแปลกมาลงบ้าง
ตัวอย่างเช่นเว็บที่ผมจะแนะนำวันนี้ เขาจะแนะนำเฉพาะหนังสือที่มีชื่อเรื่องสั้นที่สุด

แล้วหนังสือแบบไหนที่เรียกว่า “ชื่อเรื่องสั้นที่สุด
นั่นก็หมายถึงหนังสือที่มีแค่ตัวอักษรเดียวไงครับ A B C D ….. Z

เอาเป็นว่าลองดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ

หนังสือที่มีชื่อเรื่องเพียงแค่ อักษรตัวเดียว A - Z

เป็นยังไงกันบ้าง สั้นได้ใจมั้ยครับ
จริงๆ แล้วนอกจากหนังสือที่มีตัวอักษรเดียวแล้ว ยังมีหนังสืออื่นๆ ที่มีพยางค์เดียวด้วย

หนังสือที่มีชื่อเรื่องพยางค์เดียว

เป็นเว็บแนะนำหนังสือที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ดีจริงๆ ห้องสมุดอย่างเราก็น่าจะเอาไอเดียแปลกๆ แบบนี้ไปเล่นบ้างนะ
ตัวอย่าง : แนะนำหนังสือที่มีชื่อเรื่องสั้นที่สุด (เวอร์ชั่นภาษาไทย)

วันนี้ขอเสนอแค่นี้แล้วกัน ยังไงใครนึกอะไรดีๆ ก็แบ่งปันความคิดกันได้ที่นี่เลยนะครับ
สำหรับคนที่อยากเข้าไปดูเว็บไซต์นี้ ลองเข้าไปที่ http://www.abebooks.com/books/single-letter-title-shortest-mccarthy/warhol-updike.shtml

The edublogaward 2009 สาขาห้องสมุดและบรรณารักษ์

ปีนี้ก็ 2010 แล้วนะครับ ผมอาจจะนำเรื่องนี้มารายงานช้าไปหน่อย
แต่อย่างน้อย The edublogaward 2010 ก็ยังไม่เริ่มประกาศผลนะครับ

The edublogaward 2009 รางวัลนี้ได้แจกให้แก่บล็อกในวงการศึกษาดีเด่นหลายสาขานะครับ
เช่น บล็อกส่วนตัว บล็อกแบบกลุ่ม บล็อกของอาจารย์ บล็อกของนักเรียน บล็อกของชั้นเรียน ฯลฯ

แน่นอนครับในกลุ่มด้านการศึกษานี้คงต้องมีรางวัลเกี่ยวกับ บล็อกห้องสมุดและบรรณารักษ์ ด้วย

ดังนั้นผมจึงของนำมารายงานให้เพื่อนๆ ได้รับทราบกันนะครับ
โดยผู้ที่ชนะเลิศในปี 2009 คือ บล็อก Never Ending Search ซึ่งเป็นบล็อกภายใต้ schoollibraryjournal นั่นเอง
ส่วนอันดับที่สอง คือ บล็อก Bright Ideas ซึ่งเป็นของ School Library Association of Victoria
ส่วนอันดับที่สาม คือ Library Tech Musings ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น thedaringlibrarian

เอาเป็นว่าผมก็ลองเข้าไปดูบล็อกเหล่านี้มาแล้วแหละ นับว่าน่าสนใจจริงๆ
ดังนั้นผมว่าเพื่อนๆ เซฟลิ้งค์พวกนี้แล้วลองหาเวลาเข้าไปอ่านบ้างนะครับ

อ๋อ นอกจากนี้แล้ว ในบล็อกวงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ที่ถูกเสนอชื่อและเป็นคู่แข่งในการประกวดครั้งนี้ยังมีอีกมากมาย เช่น

  1. A Fuse #8 Productions
  2. Bloggit
  3. Bright Ideas
  4. Blue Skunk
  5. Cathy Nelson?s Professional Thoughts
  6. Hey Jude
  7. LCS ES Media Blog
  8. Librarian by Day Blog
  9. Library Tech Musings
  10. Lucacept
  11. My Mind Gap
  12. Never Ending Search
  13. Not So Distant Future
  14. The Unquiet Librarian
  15. The Unquiet Library
  16. The Waki Librarian
  17. The Web Footed Book Lady
  18. Wired Librarian
  19. World?s Strongest Librarian

คะแนนในการตัดสิน The edublogaward 2009 สาขาห้องสมุดและบรรณารักษ์

เอาเป็นว่าน่าสนใจทุกบล็อกเลย จริงๆ แล้วในเมืองไทยผมอยากให้มีการจัดประกวดบล็อกด้านการศึกษาแบบนี้บ้างจัง
แต่คงต้องมีการวัดผลที่เป็นมาตรฐานกว่าที่ผ่านมาหน่อยนะครับ เพราะเท่าที่เห็นก็คือ พวกเยอะมักได้รางวัล
ซึ่งบางทีแล้วไม่ยุติธรรมต่อบล็อกหรือเว็บที่มีประโยชน์สักเท่าไหร่ ยังไงก็ฝากไว้แค่นี้แหละครับ

เว็บไซต์ทางการของงาน The edublogaward 2009 – http://edublogawards.com/2009/
ถ้าหากเพื่อนๆ อยากรู้เกี่ยวกับบล็อกการศึกษาที่ประกวดในปีก่อนหน้านี้ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่? http://edublogawards.com/

10 อันดับห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (วัดจากจำนวนหนังสือ)

วันนี้ขอต่อเรื่องห้องสมุดกับความเป็นที่สุดในโลกกันต่อนะครับ
เมื่อวานได้เขียนถึงหอสมุดแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลกไปแล้ว
วันนี้ขอนำเสนอห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก 10 อันดับบ้างดีกว่า

ที่บอกว่าใหญ่ที่สุดในโลกอันนี้เขาวัดจากการมีจำนวนหนังสือนะครับ
หนังสือมากที่สุดในโลกทั้ง 10 อันดับนี้บางแห่งก็ไม่ใช่หอสมุดแห่งชาติด้วย
ห้องสมุดสถาบันก็สามารถครอง 1 ใน 10 อันดับนี้ได้ด้วย เราไปดูกันเลยดีกว่า

10 อันดับห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อันดับที่ 1 Library of Congress ก่อตั้งเมื่อ 1800 มีหนังสือจำนวน 29 ล้านเล่ม
อันดับที่ 2 National Library of China ก่อตั้งเมื่อ 1909? มีหนังสือจำนวน 22 ล้านเล่ม
อันดับที่ 3 Library of the Russian Academy of Sciences ก่อตั้งเมื่อ? 1714 มีหนังสือจำนวน 20 ล้านเล่ม
อันดับที่ 4 National Library of Canada ก่อตั้งเมื่อ 1953? มีหนังสือจำนวน 18.8 ล้านเล่ม
อันดับที่ 5 Deutsche Biblothek ก่อตั้งเมื่อ? 1990 มีหนังสือจำนวน 18.5 ล้านเล่ม
อันดับที่ 6 British Library ก่อตั้งเมื่อ? 1753 มีหนังสือจำนวน 16 ล้านเล่ม
อันดับที่ 7 Institute for Scientific Information on Social Sciences of the Russian Academy of Sciences ก่อตั้งเมื่อ? 1969 มีหนังสือจำนวน 13.5 ล้านเล่ม
อันดับที่ 8 Harvard University Library ก่อตั้งเมื่อ? 1638 มีหนังสือจำนวน 13.1 ล้านเล่ม
อันดับที่ 9 Vernadsky National Scientific Library of Ukraine ก่อตั้งเมื่อ? 1919 มีหนังสือจำนวน 13 ล้านเล่ม
อันดับที่ 10 New York Public Library ก่อตั้งเมื่อ 1895 มีหนังสือจำนวน 11 ล้านเล่ม

เอาเป็นว่าก็สุดยอดกันไปเลยใช่มั้ยหล่ะครับ เรื่องจำนวนหนังสือแบบเป๊ะๆ อันนี้ผมไม่อยากจะเชื่อตัวเลขสักเท่าไหร่
เนื่องจากในเมืองไทยเองที่ผมเคยไปเยี่ยมห้องสมุดหลายที่ก็มักจะเอาตัวเลขจากฐานข้อมูล แต่หนังสือเล่มจริงๆ มักมีไม่ถึง
จริงๆ ผมอยากรู้จังว่า 1-10 อันดับห้องสมุดในเมืองไทยที่สุดที่สุดมีที่ไหนบ้างจังเลย
ไว้ว่างๆ จะมาเขียนและหาข้อมูลเล่นๆ กันนะ

ข้อมูลมาจากเว็บไซต์ http://www.watchmojo.com/top_10/lists/knowledge/libraries/libraries_largest.htm

10 อันดับหอสมุดแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

รู้หรือไม่ครับว่าหอสมุดแห่งชาติของประเทศไหนเก่าแก่ที่สุด
วันนี้ผมไปเจอคำตอบเหล่านี้มาเลยขอนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้กันสักหน่อย

10 อันดับหอสมุดแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
อันดับที่ 1 – National Library of the Czech Republic ก่อตั้งในปี 1366
อันดับที่ 2 – National Library of Austria ก่อตั้งในปี 1368
อันดับที่ 3 – National Library of Italy ก่อตั้งในปี? 1468
อันดับที่ 4 – National Library of France ก่อตั้งในปี 1480
อันดับที่ 5 – National Library of Malta ก่อตั้งในปี? 1555
อันดับที่ 6 – Munich, Germany ก่อตั้งในปี 1958
อันดับที่ 7 – National Library of Belgium ก่อตั้งในปี 1559
อันดับที่ 8 – Zagreb National and University Library ก่อตั้งในปี 1606
อันดับที่ 9 – National Library of Finland ก่อตั้งในปี 1640
อันดับที่ 10 – National Library of Denmark ก่อตั้งในปี 1653

ปล. ข้อมูลที่ได้มานี้บอกเพียงแค่ว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกนะครับ
จริงๆ แล้วผมอยากรู้ต่อว่า หอสมุดเหล่านี้ยังคงอาคารเดิมบ้างหรือปล่าว
หรือว่าย้ายไปแล้วสร้างใหม่หมดแล้ว อันนี้เดี๋ยววันมีโอกาสจะหาคำตอบมานำเสนอนะครับ

จริงๆ แล้วผมลองเช็คข้อมูลบางส่วนในวิกิพีเดียแล้วนะครับ แต่รู้สึกว่าหอสมุดแห่งชาติบางแห่งในนี้ มีปีที่ก่อตั้งคาดเคลื่อน
ดังนั้นผมจึงต้องบอกเพื่อนๆ ก่อนว่าอย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลนี้ทั้งหมดนะครับ แล้วผมจะลองค้นหาข้อมูลมาลงแก้ให้วันหลังนะ

ข้อมูลมาจากเว็บไซต์ http://www.watchmojo.com/top_10/lists/knowledge/libraries/libraries_oldest_national.htm

เทคนิคในการนำ Foursquare ไปใช้กับงานห้องสมุด

วันก่อนพูดเรื่อง Twitter ไปแล้ววันนี้ผมขอลงเรื่อง Social Media กับงานห้องสมุดตัวอื่นๆ บ้างนะครับ
เริ่มจากเทคนิคในการนำ Foursquare ไปใช้กับงานห้องสมุดที่บรรณารักษ์ไม่ควรพลาด

หลายๆ คนคงกำลังงงว่า Foursquare คืออะไร คำจำกัดความและวิธีการเล่น เพื่อนๆ สามารถอ่านได้จากเว็บอื่นๆ ครับ เช่น
ทำความรู้จัก สอนเล่น FourSquare อนาคตเทรนด์ Location Based Services
?Foursquare?: กระแสใหม่ของสังคมออนไลน์ที่ไม่ควรพลาด
ตะโกนบอกโลกให้รู้ว่าคุณอยู่ไหนกับ foursquare.com – Social Network สายพันธุ์ใหม่

เอาเป็นว่าขอสรุปง่ายๆ ว่าเป็น social network ที่บอกให้เรารู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน
ด้วยแนวคิดเรียบง่ายว่า “อยู่ที่ไหน ก็ Check in ที่นั้น” “ตอนนี้ผมอยู่ที่….” “กำลัง…ที่นี่”

ในวงการธุรกิจได้นำ Foursquare มาปรับใช้ เช่น แนะนำโปรโมชั่นของสินค้าหรือบริการ
รวมไปถึงการสร้างข้อมูลสถานที่ของตัวเองให้ผู้ใช้บริการออนไลน์รู้จัก

“อ้าว แล้ววงการห้องสมุดจะนำมาใช้ทำอะไรได้บ้างหล่ะ”
นั่นแหละเป็นที่มาของเรื่องนี้ ผมจะแนะนำวิธีการนำมาใช้กับงานห้องสมุดบ้างหล่ะ

1. เพิ่มห้องสมุดของคุณให้เป็นสถานที่แห่งหนึ่งใน FourSquare

ง่ายๆ ครับ แค่เพิ่มชื่อห้องสมุด ที่อยู่ โดยเพื่อนๆ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จาก google map

2. ใส่ชื่อกลุ่มสถานที่เป็นกลุ่ม education….แล้วเลือกกลุ่มย่อย Library
จากนั้นก็ใส่ Tag ของห้องสมุด เช่น ห้องสมุด, หนังสือ, สื่อมัลติมีเดีย, อินเทอร์เน็ตไร้สาย, บริการยืมคืน…..

3. ใส่คำแนะนำหรือสิ่งที่ต้องทำลงใน Tips / To do list
ใส่คำแนะนำห้องสมุดหรือโปรโมชั่นของห้องสมุดที่น่าสนใจลงไปเลยครับ เช่น
– “ช่วงวันที่… ห้องสมุดมีบริการให้ยืมได้ไม่จำกัดจำนวน”
– “บุคลากรภายนอกสามารถเข้าใช้ห้องสมุดได้โดยแสดงบัตรประชาชน”
– “อินเทอรืเน็ตไร้สายบริการฟรี เพียงแค่ติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ เคาน์เตอร์บริการ”


4. จัดกิจกรรมย่อยๆ ผ่านการ Check in ใน FourSquare

ห้องสมุดก็น่าจะจัดกิจกรรมเล็กๆ ที่เกี่ยวกับการ Check in ใน FourSquare ได้ เช่น
“ผู้ที่ Check in ผ่าน FourSquare คนที่ 99 ของเดือนจะได้รับรางวัล”
“ผู้ที่ Check in ผ่าน FourSquare จะได้รับสิทธิ์ในการยืมหนังสือเพิ่มขึ้น”

5. ทักทายและประกาศเรื่องราวอัพเดทได้ผ่าน Shout out
ห้องสมุดสามารถประกาศข่าวสารอัพเดท หรือ ทักทายผู้ใช้บริการผ่านทางออนไลน์ได้
และยิ่งไปกว่านั้น FourSquare สามารถเชื่อมไปยัง Twitter และ Facebook ได้ด้วย
ดังนั้นโพสข้อความลง Shout out ของ FourSquare ข้อความจะไป Twitter และ Facebook ด้วย

เอาเป็นว่าก็ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้กันดูนะครับ แต่ก่อนอื่นไปสมัครสมาชิกกันก่อนที่ http://foursquare.com/
แล้วอย่าลืมไปแอดผมเป็นเพื่อนด้วยนะครับ อิอิ http://foursquare.com/user/ylibraryhub
สำหรับวันนี้ผมคงแนะนำไว้เท่านี้ก่อน แล้วผมจะนำ social media กับงานห้องสมุดมาลงให้อ่านกันใหม่

ห้องสมุดยุคใหม่ควรใช้ twitter อย่างไร

เมื่อวานผมได้เขียนเรื่องที่ไม่ควรปฏิบัติสำหรับห้องสมุดที่ใช้ Twitter แล้ว
วันนี้ผมก็ขอนำเสนอภาคต่อด้วยการแนะนำสิ่งที่ควรปฏิบัติบ้างน่าจะดีกว่า

เริ่มจากคำแนะนำแบบเบื้องต้นเรื่องของการจัดการ profile ตัวเอง
– ชื่อ account สื่อถึงห้องสมุดตัวเองหรือไม่
– รูปภาพแสดงตัว ถ้าเป็นรูปห้องสมุดก็คงดีสินะ
– website ให้ใส่เว็บไซต์ของห้องสมุดตัวเอง
– Bio เขียนแนะนำห้องสมุดแบบสั้นๆ เช่น “การติดต่อสื่อสารออนไลน์กับห้องสมุด….ทำได้ไม่ยาก”

สำหรับข้อความที่ควร tweet (จากบทความ Six Things Libraries Should Tweet)
1. Library events – งานกิจกรรมต่างๆ ของห้องสมุด
เป็นการบอกให้ผู้ที่ติดตามเราได้รู้ว่ากำลังจะมีงานอะไรในห้องสมุด เช่น
“วันเสาร์นี้ 10 โมงเช้า จะมีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ในห้องสมุด”

2. Links to articles, videos, etc. – Feed ข้อมูลจากเว็บไซต์หรือบล็อกของห้องสมุด
เป็นการเชื่อมการทำงานระหว่างเว็บไซต์และการกระจายข่าวสารสู่โลกออนไลน์
หากต้องการ tweet ข้อความมากๆ เราควรใช้บริการย่อ link จาก bit.ly หรือ tinyurl ก็ได้

เช่น “The Library of Congress Revives Public Domain Works via CreateSpace Print on-Demand and Amazon Europe Print on-Demand – http://bit.ly/9nE8H1”

3. Solicit feedback – การแสดงความคิดเห็น หรือ การสำรวจข้อมูลต่างๆ

เป็นช่องทางในการสอบถามเรื่องความคิดเห็นหรือแสดงไอเดียใหม่ๆ ของห้องสมุด
แต่ต้องระวังคำถามนิดนึงนะครับ เพราะมันมีผลตอบสนองกับมาที่ห้องสมุดแน่ๆ เช่น
ไม่ควรถามคำถามที่เดาคำตอบได้อยู่แล้ว ประมาณว่า “ห้องสมุดควรเปิด 24 ชั่วโมงหรือไม่
ผู้ใช้บริการทุกคนย่อมต้องการสิ่งนี้แน่นอน และห้องสมุดจะต้องรับผิดชอบในการกระทำนั้นๆ


4. New additions to your collection – ทรัพยากรใหม่ๆ ในห้องสมุด

เป็นช่องทางในการแนะนำหนังสือหรือสื่อใหม่ๆ ในห้องสมุด
ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะใช้ feed ข้อมูลจากฐานข้อมูลห้องสมุดหรือเว็บไซต์ก็ได้

5. Marketing – การตลาดและประชาสัมพันธ์
เป็นช่องทางในการสร้างกระแสให้ห้องสมุด ข้อมูลของห้องสมุดอาจเป็นที่สนใจกับผู้ใช้บริการ
เช่น หนังสือที่ถูกยืมในปีที่แล้วทั้งหมดจำนวน 35,000 ครั้ง

6. Answer questions – ถามตอบปัญหาต่างๆ
เป็นช่องทางในการถามตอบระหว่างบรรณารักษ์ห้องสมุดกับผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างดีและได้ผล

เป็นไงกันบ้างครับกับเรื่องของ twitter ที่มีความสัมพันธ์กับงานห้องสมุด
พื่อนๆ สามารถอ่านบทความย้อนหลังเกี่ยวกับเรื่อง Twitter ในงานห้องสมุดได้นะครับ
ซึ่งผมได้เขียนไว้หลายเรื่องแล้ว ลองดูจาก
http://www.libraryhub.in.th/tag/twitter/

แล้วอย่าลืมเข้ามา follow ผมกันเยอะๆ ด้วยหล่ะ @ylibraryhub

สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติสำหรับห้องสมุดที่ใช้ Twitter

จริงๆ แล้วอยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ และข้อไม่ควรปฏิบัติในบล็อกเดียวกัน
แต่กลัวว่ามันจะยาวเกินไปเดี๋ยวเพื่อนๆ จะเบื่อเอาง่ายๆ
วันนี้ผมจึงขอเลือกข้อไม่ควรปฏิบัติสำหรับห้องสมุดที่ใช้ Twitter ก่อนน่าจะดีกว่า

เรื่องที่จะนำเสนอนี้สำหรับห้องสมุดหรือบรรณารักษ์ที่เปิด Account เพื่อใช้ในองค์กรเท่านั้น
ไม่รวมถึง Account Twitter ส่วนตัวของเพื่อนๆ นะครับ (ง่ายๆ twitter องค์กร only)

ผมก็ใช้เวลาในการเล่น Twitter มาสามปีกว่าๆ สังเกตมาสักระยะแล้วว่า
ห้องสมุดหลายๆ แห่งเริ่มมีการนำ twitter มาใช้ในองค์กรมากขึ้น
เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรม แนะนำหนังสือ ฯลฯ ในห้องสมุด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี

แต่ห้องสมุดบางแห่งเมื่อผมได้เข้าไปใน twitter ผมก็รู้สึกแปลกๆ และสงสัยเล็กน้อย
ถึงความผิดปกติในแง่ต่างๆ เช่น lock ไม่ให้คนอื่นดู, ปล่อยให้ twitter ร้าง ฯลฯ

ผมจึงอยากนำเรื่องต่างๆ เหล่านี้มาแนะนำให้เพื่อนๆ ห้องสมุดและบรรณารักษ์อ่าน
สิ่งที่ Twitter ห้องสมุดหรือบรรณารักษ์ไม่ควรทำในโลกออนไลน์ ได้แก่

– การ lock หรือ การ protected Account ของห้องสมุดหรือบรรณารักษ์
เพราะห้องสมุดของเราควรเปิดกว้างให้ผู้ใช้บริการบนโลกออนไลน์ทุกคน
ดังนั้นเราไม่ควรจำกัดการเข้าถึงห้องสมุดด้วยวิธียุ่งยาก

– ทำตัวเสมือนเป็นหุ่นยนต์ (ดึง feed ข่าวของห้องสมุดมาลงเพียงอย่างเดียว)
ในโลกของ twitter ห้องสมุดก็สามารถมีชีวิตได้ หากมีคนถามห้องสมุดก็ควรตอบ
นอกจากนี้ห้องสมุดยังสามารถทักทายผู้ใช้บริการออนไลน์อยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นกันเอง

– อย่าปล่อยให้การอัพเดทข้อความใน twitter ทิ้งช่วงเกิน 2-3 วัน
เพราะนั้นหมายถึงความไม่ใส่ใจของห้องสมุด (ห้องสมุดร้าง)

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นเพียงคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ก็แล้วกันนะครับ
เพื่อเป็นคำเตือนให้เพื่อนๆ บรรณารักษ์และห้องสมุดมือใหม่ระวังในการใช้เครื่องมือออนไลน์

การพัฒนาหลักสูตรบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาตร์ในยุคดิจิทัล

วันก่อนได้รับเกียรติจากภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เชิญเป็นวิทยากรบรรยายในเรื่อง “หลากมุมมองของนักวิชาชีพสารนิเทศ” วันนี้ผมจึงขอนำเรื่องวันนั้นมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

ภาพกิจกรรมในวันนั้นแบบคร่าวๆ (ขอนำภาพจากเว็บไซต์ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาลง)

(ข้อมูลโดยสรุปไว้ผมจะนำมาเล่าวันหลังนะครับ ช่วงนี้มีภาระงานเยอะไปหน่อย อิอิ)
เอาสไลด์ของแต่ละคนไปนั่งอ่านก่อนได้ครับ

สไลด์ของวิทยากรทุกท่านสามารถดาวน์โหลดได้จาก http://www.arts.chula.ac.th/~libsci/conference%2053_Download.html

ชมภาพกิจกรรมได้ที่ http://www.arts.chula.ac.th/~libsci/activities.html