เมื่อ fail whale มาอยู่ในห้องสมุด

ภาพที่ท่านจะได้เห็นต่อไปนี้ หลายๆ คนคงจะบอกว่ามันคุ้นๆ นะ ครับ คุ้นๆ ว่าเป็นสัญลักษณ์ Fail whale แห่ง Twitter นั่นเอง สำหรับใครก็ตามที่ยังไม่เข้าใจว่า twitter คืออะไร ลองย้อนกลับไปอ่านในเรื่อง “Twitter + Librarian = Twitterian” นะครับ คนที่เล่น Twitter ประจำเมื่อเห็นภาพนี้คงรู้ว่านั่นหมายความว่า Twitter ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราวนั่นเอง หรือพูดง่ายๆ ว่ากำลังเดี้ยง แต่ภาพที่ผมนำมาให้ดูนี้ มันเป็นภาพ fail whale ที่ติดอยู่ภายในห้องสมุดอ่ะครับ แถมด้วยข้อความภาษาอังกฤษอีกสักประโยคใหญ่ๆ ว่า “We?re really sorry about the lack of tables & Chairs! We hope that things will be back to normal by about 3pm today” เอางี้ดีกว่าผมขอแปลเป็นภาษาไทยให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน มันแปลว่า “พวกเราต้องขอโทษจริงๆ ที่ตอนนี้โต๊ะและเก้าอี้มีผู้ใช้งานเต็มจำนวนไม่เหบลือที่ให้คุณนั่ง พวกเราหวังว่าเก้าอี้และโต๊ะจะให้บริการได้ตามปกติในช่วงบ่ายสามโมงของวันนี้นะครับ” พอได้อ่านก็เลยแอบขำอยู่นิดๆ ว่า บรรณารักษ์ที่นี่ต้องเป็นคนติด twitter ระดับนึงแน่ๆ ถึงได้กล้าเล่นมุขนี้ในห้องสมุดของตัวเอง แต่ยอมรับเลยครับว่าเยี่ยมจริงๆ เอาไว้ว่างๆ ผมจะลองเอาไอเดียนี้ไปติดที่ห้องสมุดของผมบ้างนะครับ ผู้ใช้ก็คงจะงงกันไปตามๆ กัน อิอิ ที่มาของรูปจาก http://www.flickr.com/photos/timothygreigdotcom/2643190467/

โปรโมทห้องสมุดใน Facebook ดีกว่า

ช่วงนี้กระแสการใช้งาน facebook กำลังมาแรงครับ เท่าที่ผมสังเกตมีคนใช้งานfacebook ในเมืองไทยมากขึ้น ดังนั้นห้องสมุดของพวกเราก็อย่าน้อยหน้ากันนะครับ เอาห้องสมุดของคุณไปอยู่ใน facebook กันเถอะ การสร้าง account facebook มันไม่ยากหรอกครับ แต่ประเด็นที่น่าคิดก็คือ…เราจะเอาข้อมูลห้องสมุดอะไรไปใส่ใน facebook บ้างหล่ะ??? วันนี้ผมไปอ่านเรื่องนึงมา เห็นว่าเกี่ยวกับประเด็นนี้พอดี เลยเอามาให้อ่านกันครับ ชื่อเรื่องว่า “10 Great Things to Include on Your Library?s Facebook Fan Page” ในบทความนี้ได้กล่าวถึงข้อมูล 10 อย่างที่ควรจะอยู่ในหน้า Facebook เราลองไปอ่านกันเลยดีกว่าครับว่ามีอะไรกันบ้าง ข้อมูล 10 อย่างที่เราควรเอาลงใน Facebook มีดังนี้ 1. photos of your library. รูปของห้องสมุดคุณ (อันนี้คงไม่ยากครับ ถ่ายมุมสวยๆ สัก 10 รูปกำลังดี) 2. a library video tour or other promotional videos. วีดีโอแนะนำห้องสมุดของคุณ (อันนี้อาจจะยากสักนิดในการถ่ายวีดีโอ แต่ถ้ามีผมว่าน่าสนใจครับ) 3. a calendar of library events. ปฏิทินกิจกรรมของห้องสมุดคุณ (พยายามอัพเดทตลอดนะครับ คนเข้ามาจะได้รู้ว่าเรา ตั้งใจทำ) 4. a rss feed of your library blog. feed ข้อมูลของเนื้อหาบนเว็บของคุณมาที่นี่ด้วยก็จะดีมากเลย 5. information about how to contact…

Twitter + Librarian = Twitterian

ก่อนอื่นผมคงต้องแนะนำก่อนว่า Twitter คืออะไร เพราะผมเชื่อว่าบรรณารักษ์อีกหลายคนคงยังไม่รู้จักเครื่องมือชิ้นนี้อย่างแน่นอน

เมื่อ Libraryhub ได้ Pagerank 4/10

บล็อกหรือเว็บไซต์ของเพื่อนๆ มีค่า pagerank กันเท่าไหร่บ้างครับ วันนี้ผมขอเล่าเรื่องค่า pagerank ที่ผมได้รับจาก google แล้วกัน ความหมายของ pagerank (คัดลอกมาจาก http://www.makemany.com) ค่า pagerank คือ วิธีการจัดลำดับความสำคัญเว็บเพจทั่วโลก จาก Google โดยให้ชื่อว่า Google Page Rank การวัดค่าการจัดลำดับความสำคัญนี้ Google ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ 0 ถึง 10 ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ ค่า Page Rank หรือ PR จะยิ่งสูงเท่านั้น และเป็นเหตุให้ได้รับการจัดลำดับที่ดีกว่าจาก Google. สำหรับ Libraryhub เปิดไปได้ยังทันจะสามเดือนแต่ก็ได้ Pagerank มา 4/10 ทำให้ผมมีกำลังใจในการเขียนบล็อกขึ้นอย่างมาก (แต่กำลังใจของเพื่อนๆ มีค่ามากกว่านะ) ค่า pagerank จะทำให้ Google เข้ามาจัดทำ Index ของบล็อกผมเพิ่มขึ้น และยังช่วยให้คำสำคัญในบล็อกของผมค้นได้เจอเยอะขึ้น ตำแหน่งก็ดีขึ้น ที่สำคัญก็คือ “เพื่อนๆ จะเจอผมใน Google มากขึ้นและง่ายขึ้น” ช่วยให้ผมมีสมาชิกใหม่ๆ และร่วมกันสร้างเครือข่ายมากด้วย เพื่อนๆ สามารถเช็คค่า pagerank ได้ที่ http://www.prchecker.info/check_page_rank.php สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า pagerank คืออะไร ลองอ่านได้จากเว็บไซต์ด้านล่างนี้นะครับ Pagerank คืออะไร (เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ) – http://en.wikipedia.org/wiki/PageRank – http://www.webworkshop.net/pagerank.html Pagerank คืออะไร (เวอร์ชั่นภาษาไทย) – http://truehits.net/faq/webmaster/seo/page_rank.php – http://seo.siamsupport.com/blog/pagerank/ ก่อนจากกันวันนี้ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่เขียนบล็อกทุกคนนะครับ ขอให้ได้ pagerank…

แนะนำแหล่งสารสนเทศออนไลน์

แหล่งสารสนเทศออนไลน์ที่ให้บริการสารสนเทศฟรีมีมากมาย วันนี้ผมจะนำมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกันหน่อยนะครับ เพื่อว่า เพื่อนๆ จะสามารถนำไปใช้ในเรื่องบริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้าได้ แหล่งสารสนเทศออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตมีหลายรูปแบบ เช่น – สารานุกรมออนไลน์ – ฐานข้อมูลออนไลน์ – เว็บไซต์บริการตอบคำถาม (FAQ) – วารสารวิชาการออนไลน์ – สารสนเทศชี้แหล่ง – เว็บไซต์สารสนเทศเฉพาะด้านออนไลน์ – เว็บไซต์องค์กรวิชาชีพ และอื่นๆ อีกมากมายแล้วแต่องค์ความรู้ ลองไปดูกันนะครับ ว่าผมแนะนำเว็บไหนบ้าง 1 Encyclopedia Britannica – http://www.britannica.com 2 Encarta – http://www.encarta.msn.com 3 First Monday – http://firstmonday.org 4 IBM Technical Journals – http://www.almaden.ibm.com/journal 5 Chicago Journal of Theoretical Computer Science – http://www.cs.uchicago.edu/research/publications/cjtcs 6 FreePatentsOnline.com – http://www.freepatentsonline.com 7 HighWire — Free Online Full-text Articles – http://highwire.stanford.edu/lists/freeart.dtl 8 BUBL Information Service – http://bubl.ac.uk 9 ERIC – Education Resources Information Center – http://www.eric.ed.gov 10 W3Schools – http://www.w3schools.com 11 NECTEC…

เปิดเว็บห้องสมุดสำหรับคนขี้เกียจ

วันนี้ขอแนะนำคำว่า LazyLibrary ให้เพื่อนๆ รู้จักกันหน่อยนะครับ หากเพื่อนๆ แปลกันแบบตรงๆ คำว่า LazyLibrary คงจะหมายความว่า ห้องสมุดขี้เกียจ แต่จริงๆ แล้วคำว่า LazyLibrary เป็นเพียงชื่อเว็บไซต์ต่างหาก ไปดูกันว่าตกลงมันเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร LazyLibrary – เป็นเว็บไซต์สำหรับการค้นหาหนังสือ เพื่อสั่งซื้อหนังสือมาอ่านครับ ดูผิวเผินเพื่อนๆ ก็จะนึกถึง Amazon นั่นเอง โดยหลักการสืบค้นหนังสือ ก็เหมือนๆ กับ Amazon นั่นแหละครับ แต่แตกต่างกันที่แนวความคิด และไอเดียของการทำเว็บไซต์ ซึ่งในเว็บไซต์ LazyLibrary ได้พูดถึงแนวความคิดว่า “where you can find books on any topic without having to worry about high page counts. If it’s over 200 pages, you won’t even see it. Read all about anything, in less time, for (usually) less money.” ปกติ เวลาค้นหาหนังสือเพื่อทำรายงานสักเรื่อง คุณอาจจะต้องกังวลเกี่ยวกับจำนวนหน้าของหนังสือที่เยอะเหลือเกิน และถ้าหนังสือเล่มนั้นเกิน 200 หน้า คุณก็คงไม่อยากเห็นมันเช่นกัน ดังนั้นเว็บนี้จะช่วยคุณหาหนังสือที่ไม่เกิน 200 หน้า เพื่อให้คุณใช้เวลาที่น้อยกับเรื่องนั้นๆ และมีราคาที่ถูก เจ๋งดีมั้ยครับ หาหนังสือที่มีจำนวนไม่เกิน 200 หน้า หลักการค้นก็ง่ายๆ ครับ เพียงแค่ใส่หัวข้อที่เราต้องการหาลงไปในช่องค้นหา ซึ่งหน้าตาก็ใช้งานง่ายเหลือกเกิน…

เรื่องของ Web 3.0 & Semantic

เรื่องของ web 3.0 กำลังจะเข้ามาใกล้เรามาขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ ในประเทศไทยเพื่อนๆ อาจจะได้ยินคำว่า web 2.0 มาพอควรแล้ว วันนี้ผมเลยขอนำเรื่องที่ใหม่กว่านั่นมาเสนอครับ ลองอ่านได้เลย ช่วงปลายปีนี้มีการประชุมเกี่ยวกับ Web3.0 มากมาย ซึ่งจุดประสงค์ส่วนใหญ่ก็ คือ การกำหนดทิศทาง และมองแนวโน้มของเทคโนโลยีเว็บไซต์